แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 45
1
หมอออนไลน์: ภาวะเหงื่อออกมากโดยไม่ทราบสาเหตุ (Primary hyperhidrosis)

ภาวะเหงื่อออกมากโดยไม่ทราบสาเหตุ หมายถึง ภาวะเหงื่อออกมากที่ไม่ทราบสาเหตุชัดเจน* ผู้ป่วยจะมีอาการเหงื่อออกที่บริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า รักแร้ ใบหน้า แม้อยู่เฉย ๆ หรือในที่อากาศเย็น ซึ่งมักมีอาการเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรังมาตั้งแต่อายุน้อย

ภาวะนี้พบมากในวัยรุ่นและคนอายุน้อยกว่า 25 ปี และมักมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ด้วย

*คนทั่วไปมักมีเหงื่อออกมากตามจุดต่าง ๆ ทั่วร่างกาย เมื่ออยู่ในที่อากาศร้อน หลังการออกกำลังกายหรือใช้แรงมาก กินอาหารเผ็ดร้อน มีความเครียด ตื่นเต้น ตกใจ มีไข้สูง เป็นโรคหรือภาวะบางอย่าง (เช่น มีภาวะช็อก ต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกิน วัณโรค มะเร็งต่อมน้ำเหลือง เบาหวาน โรคพาร์กินสัน โรคของหญิงวัยหมดประจำเดือน ภาวะตั้งครรภ์ ภาวะอ้วน) การใช้ยาบางชนิด เป็นต้น เรียกว่า ภาวะเหงื่อออกมากชนิดทุติยภูมิ (secondary generalized hyperhidrosis)
ส่วนภาวะเหงื่อออกมากโดยไม่ทราบสาเหตุ (primary hyperhidrosis/primary focal hyperhidrosis) มักมีเหงื่อออกเฉพาะที่ ส่วนใหญ่พบที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า รักแร้ แต่ก็อาจพบที่บริเวณใบหน้า หนังศีรษะ

สาเหตุ

เกิดจากเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงต่อมเหงื่อถูกกระตุ้นมากเกินไป ส่งผลให้ต่อมเหงื่อหลั่งเหงื่อออกมามากผิดปกติ ซึ่งเป็นผลมาจากพันธุกรรมผิดปกติที่ถ่ายทอดมาจากพ่อแม่

อาการ

มีอาการเหงื่อออกมากโดยไม่มีสาเหตุ แม้แต่อยู่เฉย ๆ (ไม่ได้ทำอะไร) จิตใจสบาย (ไม่มีความเครียด ตกใจ กลัว หรือกังวล) หรืออยู่ในที่อากาศเย็น ก็มีอาการขึ้นมาได้ ซึ่งมักเป็นช่วงกลางวันในเวลาใดก็ได้ จะไม่มีอาการขณะนอนหลับ อาการจะเกิดขึ้นเป็นบางวัน อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง อาการมักจะเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรังนานเกิน 6 เดือนขึ้นไป

ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการเหงื่อออกที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า รักแร้ ใบหน้า หนังศีรษะ พร้อมกัน 2-3 บริเวณ โดยมีเหงื่อออกเหมือนกันทั้ง 2 ข้างของร่างกาย เช่น ฝ่ามือ 2 ข้างกับฝ่าเท้า 2 ข้าง, ฝ่ามือ 2 ข้าง รักแร้ 2 ข้าง และฝ่าเท้า 2 ข้าง เป็นต้น ส่วนน้อยอาจมีเหงื่อออกมากเพียงบริเวณใดบริเวณหนึ่ง เช่น ฝ่ามือ 2 ข้าง, ฝ่าเท้า 2 ข้าง, รักแร้ 2 ข้าง เป็นต้น

ผู้ป่วยอาจมีเหงื่อออกมากจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การเขียนหนังสือ การทำงาน การขับรถ การหยิบจับของ หนังสือ เอกสาร หรือเครื่องดนตรี การจับมือทักทาย การไม่กล้าเข้าใกล้ผู้อื่นเพราะมีกลิ่นตัว การเปลี่ยนเสื้อผ้าหรือถุงเท้าที่ชุ่มเหงื่อบ่อยกว่าปกติ เป็นต้น

อาการเหงื่อออกของผู้ป่วยอาจเป็นมากขึ้นจากการออกกำลังกาย ความเครียด หรือความวิตกกังวล


ภาวะแทรกซ้อน

อาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ทั้งทางร่างกายและจิตใจ อาทิ

    ผิวหนังบริเวณที่มีเหงื่อหมักหมมมีการติดเชื้อรา (เช่น โรคเชื้อราที่เท้าหรือฮ่องกงฟุต) ไวรัส (เช่น โรคหูด) หรือแบคทีเรีย (เช่น ฝี พุพอง)
    มีกลิ่นตัวที่เกิดจากเหงื่อปะปนกับสารที่แบคทีเรียสร้างขึ้นบนผิวหนัง ซึ่งมักพบที่บริเวณรักแร้และเท้า
    ส่งผลต่อจิตใจและการเข้าสังคม เช่น รู้สึกอับอาย ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง กระทบต่อการมีความสัมพันธ์กับคนรอบข้างหรือหลีกหนีสังคม กระทบต่อหน้าที่การงานหรือการเรียน บางรายอาจเกิดภาวะวิตกกังวลหรือซึมเศร้า

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก ซึ่งจะตรวจพบว่ามีเหงื่อชุ่มหรือออกเป็นหยดบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า รักแร้ ใบหน้า และ/หรือหนังศีรษะ

ในรายที่วินิจฉัยไม่ได้แน่ชัด หรือสงสัยเป็นภาวะเหงื่อออกมากชนิดทุติยภูมิ แพทย์จะทำการตรวจเพิ่มเติม (ตรวจเลือด ปัสสาวะ หรืออื่น ๆ) เพื่อหาสาเหตุ เช่น ต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกิน ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ เบาหวาน เป็นต้น

การรักษาโดยแพทย์

1. ในรายที่มีอาการไม่มาก ไม่มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แพทย์จะอธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจถึงโรคนี้ และแนะนำวิธีให้ผู้ป่วยปฏิบัติตัวในการดูแลตนเอง

2. ในรายที่มีอาการมาก มีผลกระทบต่อจิตใจหรือการใช้ชีวิตประจำวัน แพทย์จะให้การรักษาด้วยยาหรือวิธีต่าง ๆ โดยเลือกใช้ตามความเหมาะสมของผู้ป่วย ดังนี้

    การใช้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ (antiperspirants) ซึ่งมีส่วนผสมของสารอะลูมิเนียมคลอไรด์ ทาบริเวณที่มีเหงื่อออกมากตอนก่อนนอน และล้างออกตอนเช้า ควรระวังอย่าให้เข้าตา และอาจระคายเคืองผิวหนังได้ ยานี้จะได้ผลหลังใช้นาน 2-4 สัปดาห์ หลังหยุดยาอาการมักกลับมากำเริบใหม่ได้อีก
    การใช้ยากลุ่มแอนติโคลิเนอร์จิก (anticholinergic) ซึ่งมีฤทธิ์ระงับการทำงานของเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อออกน้อยลง มียาทั้งชนิดทา (เช่น glycopyrrolate bromide) และชนิดกิน (เช่น propantheline bromide) สำหรับชนิดกิน อาจมีผลข้างเคียง (เช่น ปากแห้ง ตาพร่ามัว ปัสสาวะลำบาก ท้องผูก)
    การใช้ยาต้านซึมเศร้า ช่วยลดอาการเหงื่อออก และช่วยลดความวิตกกังวล (ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่กระตุ้นให้มีเหงื่อออกมากขึ้น)
    การฉีดโบท็อกซ์หรือสารโบทูลินัม (Botox หรือ botulinum toxin) ระงับการทำงานของเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อออกน้อยลง ซึ่งมักจะต้องฉีดซ้ำประมาณทุก 6 เดือน ยานี้อาจมีผลข้างเคียง ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดยาอ่อนแรงชั่วคราว
    สำหรับผู้ป่วยที่ให้การรักษาดังกล่าวไม่ได้ผล แพทย์จะทำการรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น การรักษาด้วยวิธีไอออนโทฟอเรซิส (Iontophoresis โดยการใช้กระแสไฟฟ้าพลังงานต่ำช่วยส่งผ่านน้ำหรือยาเข้าสู่ผิวหนังบริเวณต่อมเหงื่อที่มีอาการ ทำให้ต่อมเหงื่อทำงานลดลง อาจต้องให้การรักษาซ้ำทุก 1 เดือน เพื่อป้องกันไม่ให้อาการกลับมาอีก), การรักษาด้วยคลื่นไมโครเวฟ (microwave therapy เพื่อทำลายต่อมเหงื่อที่บริเวณรักแร้), การขจัดเอาต่อมเหงื่อออกไป (sweat gland removal) โดยการใช้เครื่องมือแพทย์ทำการขูด (curettage) หรือดูด (liposuction) เอาต่อมเหงื่อที่ผิดปกติออกไป วิธีนี้เหมาะสำหรับการรักษาต่อมเหงื่อบริเวณรักแร้ที่ผิดปกติ, การตัดเส้นประสาทไขสันหลังที่ควบคุมการทำงานของต่อมเหงื่อ (endoscopic thoracic sympathectomy/ETS) ซึ่งได้ผลดีในการรักษาภาวะเหงื่อออกมากที่มือและรักแร้ แต่อาจมีผลข้างเคียง คือมีเหงื่อออกมากในบริเวณอื่น (เช่น หลัง ท้อง ต้นขา ปลายขา) แทน เรียกว่า “ภาวะเหงื่อออกทดแทน (compensatory sweating)”

ผลการรักษา การรักษาด้วยยาและวิธีต่าง ๆ ส่วนใหญ่เป็นการช่วยลดอาการเพียงชั่วคราว เมื่อหยุดยาหรือเว้นการรักษา ก็มักจะมีอาการกำเริบได้ใหม่ ต้องติดตามดูแลรักษาเป็นระยะ เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ลดภาวะแทรกซ้อนทางร่างกายและจิตใจ ในรายที่การรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ ไม่ได้ผล แพทย์จะทำการรักษาด้วยการผ่าตัดหรือวิธีทำลายหรือขจัดต่อมเหงื่อ ซึ่งมักได้ผลดี แต่อาจมีผลแทรกซ้อนตามมาได้ (เช่นเลือดออก แผลติดเชื้อ แผลเป็น ภาวะเหงื่อออกทดแทน)


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการเหงื่อออกมากที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า รักแร้ ใบหน้า และ/หรือศีรษะ ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นภาวะเหงื่อออกมากโดยไม่ทราบสาเหตุ ควรดูแลรักษาและติดตามการรักษาตามที่แพทย์แนะนำ และปฏิบัติตัว ดังนี้

    ใช้ยา รวมทั้งผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ (antiperspirants), ยาดับกลิ่น (deodorant) ตามที่แพทย์แนะนำ 
    อาบน้ำและฟอกสบู่ให้สะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และเมื่อมีเหงื่อออกมาก เช็ดตัวให้แห้ง โดยเฉพาะบริเวณรักแร้และเท้า
    สวมใส่เสื้อผ้าที่หลวม และระบายเหงื่อได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย 100%
    มีเสื้อผ้าและถุงเท้าสำรองติดตัว ไว้เปลี่ยนเวลามีเหงื่อออกมาก
    หมั่นรักษารองเท้าให้แห้งและสะอาด หรือใส่รองเท้าหัวเปิด และถอดรองเท้าบ่อย ๆ เมื่อมีโอกาส เพื่อไม่ให้เท้ามีเหงื่อหมักหมม

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด เมื่อเหงื่อออกมากขึ้น มีเหงื่อออกมากผิดปกติตอนกลางคืน สงสัยว่าอาจเป็นภาวะเหงื่อออกมากชนิดทุติยภูมิ หรือมีความวิตกกังวล


การป้องกัน

โรคนี้ยังไม่มีวิธีป้องกัน เนื่องจากเกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม

การรักษาและปฏิบัติตัวในการดูแลตนเองอย่างจริงจัง จะช่วยให้เหงื่อออกน้อยลง และป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ


ข้อแนะนำ

1. ผู้ป่วยควรศึกษาให้เข้าใจถึงธรรมชาติของโรคนี้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับปัจจัยทางพันธุกรรม และแม้ว่าโรคนี้ไม่สามารถหาทางป้องกันและรักษาให้หายขาดได้ แต่ก็ไม่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงใด ๆ การเรียนรู้จะช่วยให้สามารถยอมรับที่จะอยู่กับโรคนี้ รู้จักดูแลรักษาตนเองให้อาการน้อยลง และสามารถใช้ชีวิตเป็นปกติสุขได้

2. โรคนี้พบมากในวัยรุ่นและผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี หากพบในคนอายุมากหรือมีโรคประจำตัว มักเป็นภาวะเหงื่อออกมากชนิดทุติยภูมิ อย่างไรก็ตาม หากมีอาการเหงื่อออกมากอย่างผิดปกติไม่ว่าเกิดขึ้นในวัยใด ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยให้แน่ชัด และให้การรักษาที่ถูกต้อง

2
รถรับจ้างใกล้ฉัน นครสวรรค์ บริการรถ พร้อมคนยก สอบถามราคาได้

รถรับจ้างขนของนครสวรรค์

เมื่อมี บริการรถรับจ้าง เข้ามาช่วยขนย้ายของ ไม่ว่าจะเป็นการย้ายบ้าน ขนส่งสินค้า หรือ อื่นๆ ตามที่ต้องการ ทำให้การดำเนินการเหล่านี้สะดวกและง่ายขึ้นมากๆ โดยเฉพาะเมื่อต้องการย้ายของจำนวนมากหรือของที่มีน้ำหนักมาก ซึ่งหากไม่มีบริการรถรับจ้างอาจต้องใช้เวลานานหรือมีความลำบากในการจัดการขนย้ายด้วยตนเอง บริการ รถรับจ้างขนของนครสวรรค์ จะเข้ามาช่วยทั้งในเรื่องของการขนย้ายที่รวดเร็ว อีกทั้งยังมีบริการเสริม คนยก การจัดหาทีมงานขนย้าย การยกของหนัก การให้คำปรึกษาในการจัดของ รวมไปถึงการช่วยวางแผนเส้นทางที่ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ดังนั้น การใช้บริการรถรับจ้างจึงเป็นตัวเลือกที่สะดวกสบายและช่วยให้การขนย้ายเสร็จสิ้นได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายค่ะ

   
รถรับจ้างขนของนครสวรรค์ พร้อมคนยก

คนยก ต้องบอกว่าสำคัญมาก สำหรับการขนย้าย บางครั้งลูกค้าที่มาใช้บริการ ก็ใช้แต่ รถรับจ้าง ส่วนคนยกนั้นบางครั้งลูกค้าก็หาเองหรือเป็นลูกค้าเองที่เป็นคนยก แต่สำหรับของที่เยอะๆ หรือว่าของที่หนักๆแล้ว จำเป็นต้องใช้คนยกหลายคน เพื่อความสะดวกสบายของลูกค้าแล้วส่วนใหญ่จะเรียกใช้บริการ รถรับจ้างขนของนครสวรรค์ พร้อมคนยก เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาในการหาคนยกเอง อีกอย่างคนยกที่ไปพร้อมกับรถรับจ้างมีประสบการณ์สามารถจัดการของได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนย้ายด้วยค่ะ

   
รถรับจ้างขนของนครสวรรค์ บริการที่ครบครัน

บริษัทรถรับจ้างที่มีความเป็นมืออาชีพ จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้มากขึ้น ว่าของที่ขนย้ายจะถูกจัดการและส่งไปยังปลายทางอย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเสียหายหรือความล่าช้าระหว่างทาง ความเป็นมืออาชีพนี้มาจากประสบการณ์ของทีมงาน ทั้งในเรื่องการจัดการการขนส่ง เทคนิคการขนย้ายที่ปลอดภัย รวมถึงการรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างทาง

นอกจากนี้ การที่บริษัทรถรับจ้างมีบริการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรถขนย้ายขนาดต่าง ๆ เช่น รถกระบะ รถหกล้อ รถสิบล้อ หรือแม้แต่บริการขนย้ายพิเศษ เช่น ย้ายบ้าน ย้ายอุปกรณ์หนัก ย้ายเฟอร์นิเจอร์ หรือบริการขนย้ายระหว่างจังหวัด ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกบริการที่ตรงกับความต้องการได้อย่างลงตัว ความหลากหลายนี้เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการกับบริษัท เนื่องจากลูกค้ารู้สึกว่ามีทางเลือกและสามารถปรับเปลี่ยนบริการให้เหมาะสมกับงบประมาณและความต้องการได้ค่ะ

   
รถรับจ้างขนของนครสวรรค์

ขนส่ง เป็นผู้ให้บริการรถรับจ้างที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการขนย้ายมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งทีมงานมีความรู้และเข้าใจเส้นทางภายในจังหวัดเป็นอย่างดี จึงสามารถเลือกเส้นทางที่เหมาะสมและประหยัดเวลาให้กับลูกค้าได้ นอกจากนี้ ยังให้บริการขนย้ายไปยังจังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศ ครอบคลุมการขนส่งหลากหลายประเภท เช่น รถกระบะรับจ้าง รถสี่ล้อใหญ่ รถหกล้อ รถสิบล้อ รถเทรลเลอร์ และรถเฮี๊ยบ ทำให้ลูกค้ามีตัวเลือกมากมาย ไม่ว่าจะขนย้ายบ้าน สินค้า อุปกรณ์ หรือวัสดุก่อสร้าง โดยสามารถเลือกใช้บริการได้ตามความต้องการค่ะ

   
รถรับจ้างขนของนครสวรรค์ ใกลฉัน

รถรับจ้างขนของนครสวรรค์ สามารถเรียกใช้งานง่ายๆ ผ่านช่องทางต่างๆ ที่เปิดให้บริการ ทางโทรศัพท์ ทางไลน์ หรือหน้าเวปไซต์ สำหรับใครที่ต้องการ รถรับจ้างขนของนครสวรรค์ ใกลฉัน แน่นอนว่าเรามีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เพียงแค่แจ้งความประสงค์อยากจะขนย้าย เจ้าหน้าที่ของเราจะช่วยคุณวางแผนการขนย้ายตั้งแต่เริ่มต้นจนจบขบวนการขนย้ายค่ะ หรือถ้าไม่รู้ว่าของที่จะขนย้ายเหมาะกับรถประเภทไหน เราสามารถให้คำปรึกษาคุณ ประเมินของ และเลือก รถรับจ้าง ที่เหมาะสมกับการขนย้ายของคุณได้เลยค่ะ


รถรับจ้างขนของนครสวรรค์ บริการรถ พร้อมคนยก ยินดีช่วยคุณทุกการขนย้าย

หากคุณกำลังมองหาบริการขนย้ายที่รวดเร็ว สะดวก และปลอดภัย "รถรับจ้างขนของนครสวรรค์" คือคำตอบที่คุณตามหา! ด้วยบริการรถรับจ้างหลากหลายประเภทอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น รถกระบะ รถสี่ล้อใหญ่ รถหกล้อ สิบล้อ เทรลเลอร์ และ เฮี๊ยบ เราพร้อมตอบโจทย์ทุกการขนย้ายของคุณ ไม่ว่าของจะเยอะแค่ไหนก็หมดห่วง เพราะเรามีทีมงานมืออาชีพที่พร้อมให้บริการช่วยยกของและจัดการอย่างระมัดระวัง เพียงเลือกเรา คุณจะได้พบกับความสะดวกสบายจากทีมงานที่ใส่ใจและพร้อมดูแลการขนย้ายของคุณไปถึงปลายทางอย่างปลอดภัยในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ติดต่อเราได้ทุกเมื่อเพื่อความมั่นใจในทุกการขนย้ายค่ะ

3
การจัดฟันเด็ก ช่วงที่ยังมีฟันน้ำนม แตกต่างจากช่วงที่มีฟันแท้ขึ้นครบแล้วอย่างไร

ฟันน้ำนมของเด็ก ถือว่ามีบทบาทสำคัญในลำดับขั้นพัฒนาการของเด็กเลยทีเดียว นอกจากจะเป็นตำแหน่งที่จะเกิดฟันแท้มาแทนที่ ยังช่วยในเรื่องลักษณะทางกายภาพให้มีโครงสร้างร่างกายเป็นปกติ มีฟันไว้ช่วยบดเคี้ยวอาหาร หากฟันน้ำนมมีสุขภาพดี ไม่ผุกร่อนหรือติดเชื้อ ก็จะส่งเสริมพัฒนาการฟันแท้ที่จะงอกตามมาให้สมบูรณ์แข็งแรงไปด้วย นี่จึงเป็นสาเหตุที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะดูแลรักษาความสะอาดฟันของเด็กให้ดี

เพราะฉะนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรให้เด็กแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน แปรงฟันให้เด็ก หรือช่วยให้เด็กเรียนรู้วิธีแปรงฟันที่ถูกต้อง รักษาความสะอาดของช่องปากอยู่เสมอ บ้วนปาก แปรงฟัน หลังรับประทานอาหาร หรืออาจใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดฟันเพิ่มเติม และควรให้เด็กรับประทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ ดีต่อสุขภาพ และจำกัดปริมาณอาหารหรือขนมขบเคี้ยวที่ไม่มีประโยชน์ เพื่อป้องกันการเกิดฟันผุ นอกจากนี้ พ่อแม่ผู้ปกครองควรพาเด็กไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจเช็คสุขภาพฟันเป็นประจำ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาฟันในอนาคตของเด็ก หรือถ้าเด็กมีปัญหาในเรื่องของฟัน พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะเด็กๆเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องของความผิดปกติของฟัน

สำหรับการจัดฟันในเด็กนั้น สามารถแก้ไขปัญหาได้แทบทุกกรณี ทั้งยังช่วยทำให้เด็กมีโครงสร้างของใบหน้าที่ดีขึ้นด้วย ซึ่งการจัดฟันในเด็กที่มีอายุ 4-7 ปี เหมาะสำหรับการจัดฟันด้วยเครื่องมือ EF line เพราะเป็นชุดเครื่องมือที่สามารถใช้แก้ไขปัญหากล้ามเนื้อที่มีการทำงานผิดปกติ ช่วยปรับตำแหน่งของลิ้น ช่วยส่งเสริมการปรับรูปของกระดูกโดยเราทราบว่ากระบวนการเจริญเติบโตของเด็กที่เกี่ยวข้องกับกระดูกใบหน้าส่วนกลางและกระดูกขากรรไกรล่างมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องมากน้อยตามแต่ช่วงอายุ


ดังนั้น ตามหลักการแล้วหากต้องการปรับโครงสร้างใบหน้าจึงต้องทำการเริ่มแก้ไขในช่วงที่เด็กยังมีการเจริญเติบโตซึ่ง ซึ่งสามารถแกไขปัญหาฟันได้ตั้งแต่เด็กยังมีฟันน้ำนม ซึ่งพ่อแม่ที่อยากพาเด็กเข้ารับการจัดฟัน บางท่านอาจจะมีข้อสงสัยว่า การพาเด็กเข้ารับการจัดฟันในช่วงฟันน้ำนมกับช่วงที่มีฟันแท้ขึ้นครบแล้ว แตกต่างกันอย่างไร วันนี้จะมาพูดถึงความแตกต่างของการจัดฟันในเด็ก ในช่วงฟันน้ำนมและฟันแท้ว่ามีความแตกต่างอย่างไร และการจัดฟันในเด็กช่วงไหนดีที่สุด เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้เป็นแนวทางพาบุตรหลานเข้ารับการจัดฟันในเด็ก

จริงๆแล้วการจัดฟันในเด็ก คุณพ่อคุณแม่สามารถนำเด็กๆ อายุต่ำว่า 10 ปี มาตรวจกับทันตแพทย์จัดฟันได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องรอจนถึงวัยรุ่น แนะนำให้พาเด็กอายุ 7-10 ปี ไปตรวจกับทันตแพทย์จัดฟัน เพราะหากพบปัญหาการสบฟันที่ผิดปกติ เด็กวัยนี้ก็สามารถจัดฟันได้แล้ว ถ้าเด็กในวัยนี้เหมาะสำหรับการจัดฟัน EF Line อย่างไรก็ตาม การจัดฟันในวัยเด็ก หรือระยะชุดฟันผสมเป็นระยะที่ฟันหน้าและฟันกรามถาวรซี่แรกขึ้นเรียบร้อยแล้ว ควรจัดฟัน เพื่อแก้นิสัยหรือความผิดปกติที่เกิดจากขากรรไกร โดยเครื่องมือชักนำและปรับเปลี่ยนทิศทางการเจริญเติบโตของขากรรไกร ต่อมาในช่วงวัยรุ่น หรือระยะฟันถาวร เป็นระยะที่ฟันถาวรทุกซี่ยกเว้นฟันกรามซี่ที่ 3 ขึ้นเรียบร้อยแล้ว เป็นระยะที่เหมาะสมในการจัดฟันเพื่อแก้ไขตำแหน่งฟันที่มีความผิดปกติ

และในวัยผู้ใหญ่การจัดฟันจะสามารถแก้ไขได้เฉพาะความผิดปกติของตำแหน่งฟัน ดังนั้น การจัดฟันในด็กตั้งแต่ยังมีฟันน้ำนมจะมีประสิทธิภาพมากกว่า เพราะสามารถแก้ไขความผิดปกติได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และช่วยป้องกันฟันที่ขึ้นอย่างผิดปกติด้วย

หากใครสนใจพาบุตรหลานของ่ทานเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถพาบุตรหลานเข้าพบทันตแพทย์เพื่อทำการจัดฟันได้ โดยติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดฟันในเด็ก และสามารถให้คำปรึกษาได้อย่างถูกต้อง เพราะเราอยากให้เด็กๆทุกคนที่สุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อที่จะได้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรง

4
คิดจะย้าย! ให้ รถรับจ้างราคาถูก รถรับจ้างขนย้ายภูเก็ต ช่วยคุณ

การย้ายบ้านเป็นประสบการณ์ที่สำคัญและท้าทายในชีวิตประจำวันของเรา โดยเฉพาะเมื่อเราต้องย้ายไปยังที่ใหม่ที่เราไม่คุ้นเคย ภูเก็ต หนึ่งในจังหวัดที่มีเสน่ห์มากในประเทศไทย เป็นที่ตั้งของการใช้ บริการรถรับจ้างขนย้ายภูเก็ต ที่มีความสะดวกสบายและประหยัดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการย้ายที่พักอาศัยหรือที่ทำงาน การใช้บริการรถรับจ้างนั้นเป็นทางเลือกที่ทำให้การย้ายของเราเป็นเรื่องที่น่าสนใจและง่ายขึ้น

บริการรถรับจ้างขนย้ายภูเก็ต มีความหลากหลายและมีคุณภาพ ซึ่งช่วยให้เราสามารถเลือกรายการที่เหมาะสมกับความต้องการและบรรยากาศของการย้ายของเรา

เพื่อให้กระบวนการย้ายที่อยู่เป็นไปอย่างราบรื่นและไม่มีปัญหา เลือกใช้ บริการรถรับจ้างขนย้ายภูเก็ต อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมมากๆ ซึ่งเป็นทางเลือกที่สะดวกสบายและมั่นใจได้ในเรื่องของการย้ายของของที่อย่างปลอดภัย


สิ่งที่ควรรู้ก่อนย้ายบ้านด้วยรถรับจ้างภูเก็ต

ก่อนที่คุณจะตัดสินใจที่จะใช้บริการรถรับจ้างในการย้ายบ้านในภูเก็ต ควรรู้สิ่งต่อไปนี้เพื่อให้การย้ายของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

    ค้นคว้าและเปรียบเทียบบริษัท : สำรวจและเปรียบเทียบบริการรถรับจ้างจากบริษัทต่างๆ ในภูเก็ต เช็ครีวิวและข้อความของผู้ใช้บริการก่อนที่คุณจะตัดสินใจเลือกบริษัทที่เหมาะสมที่สุดสำหรับความต้องการของคุณ
    ตรวจสอบความเชื่อถือ : ตรวจสอบความเชื่อถือและประวัติของบริษัทรถรับจ้าง ตรวจสอบใบอนุญาตและประวัติการทำงานของคนขับรถ เพื่อความมั่นใจว่าคุณได้เลือกบริษัทที่น่าเชื่อถือและมีประสบการณ์
    ประมาณการค่าใช้จ่าย : ขอราคาจากบริษัทต่างๆ และทำการประมาณค่าใช้จ่ายโดยรวมในการย้ายที่อยู่ แนะนำให้ติดต่อกับบริษัทเพื่อขอใบเสนอราคาเพื่อประมาณค่าใช้จ่าย
    เวลาและวันที่ : ต้องการจัดส่งที่ไหนและเมื่อใด สอบถามเกี่ยวกับเวลาที่รถรับจ้างสามารถมายังที่อยู่ของคุณได้ และตรวจสอบว่ามีการจองล่วงหน้าหรือไม่
    การประกันความเสียหาย : สอบถามเกี่ยวกับการประกันความเสียหายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือความสูญเสียของทรัพย์สินขณะขนย้าย
    สิทธิและความรับผิดชอบ : ทราบถึงสิทธิและความรับผิดชอบของคุณและบริษัทรถรับจ้างในขณะที่ของของคุณอยู่ในการขนย้าย
    การเตรียมตัว : การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนวันที่ย้ายบ้าน เช่น การแพ็คของให้ปลอดภัย การจัดเตรียมเอกสารที่จำเป็น และการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการย้ายที่อยู่ทั้งหมด

การรู้เรื่องสิ่งที่ควรรู้ก่อนที่จะใช้ บริการรถรับจ้างขนย้ายภูเก็ต จะช่วยให้คุณมีประสบการณ์การย้ายที่อยู่ที่ดีและปลอดภัยมากขึ้น ทำให้คุณสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ในสถานที่ใหม่ได้อย่างสบายใจและมั่นใจ


อุปสรรคที่อาจพบขนย้ายที่อยู่

การขนย้ายที่อยู่มีอุปสรรคและความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นได้ ต่อไปนี้คือบางปัญหาที่คุณอาจพบขณะที่ขนย้ายที่อยู่

    ค่าใช้จ่ายสูง : ค่าใช้จ่ายสำหรับการขนย้ายบ้านอาจเพิ่มขึ้นเร็ว ๆ ได้ เนื่องจากค่าน้ำมัน ค่าจ้างพนักงานขับรถ และค่าบริการอื่น ๆ อาจเพิ่มขึ้นในบางกรณี ทำให้งบประมาณของคุณต้องปรับเปลี่ยนไปตามไปด้วย
    การบริหารจัดการเวลา : การจัดการเวลาในการย้ายบ้านอาจเป็นภาระที่หนัก เพราะคุณต้องใช้เวลาในการแพ็คของ เตรียมตัว และคอยติดตามขณะที่ของของคุณกำลังถูกขนย้าย
    ความเครียดและความไม่แน่นอน : การย้ายที่อยู่อาจทำให้คุณรู้สึกเครียดและไม่แน่นอน เนื่องจากมันเป็นการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในชีวิตและบางครั้งอาจมีการปรับตัวที่ต้องทำ
    เสี่ยงของทรัพย์สิน : การขนย้ายของอาจเสี่ยงต่อการสูญหายหรือความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นของมีค่าเช่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือของที่มีค่าเช่นเฟอร์นิเจอร์และกระจก
    สภาพอากาศและเส้นทาง : สภาพอากาศที่แปรปรวนหรือเส้นทางที่ซับซ้อนอาจทำให้การขนย้ายบ้านเป็นไปได้ยากลำบากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อเวลาและค่าใช้จ่าย
    ปัญหาในการจองรถรับจ้าง : บางครั้งอาจมีปัญหาในการจองรถรับจ้าง โดยเฉพาะในช่วงเวลาร้อนและช่วงวันหยุด เพราะอาจมีความจำเป็นที่ต้องจองล่วงหน้ามากขึ้น

การรับมือกับอุปสรรคเหล่านี้โดยการเตรียมตัวอย่างดีและการวางแผนอย่างสมดุลจะช่วยให้การย้ายที่อยู่เป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยมากขึ้น ควรทำการวางแผนล่วงหน้าและรับความช่วยเหลือจากบริษัทรถรับจ้างหรือผู้ให้บริการอื่น ๆ เพื่อช่วยให้การย้ายที่อยู่ของคุณเป็นไปอย่างเรียบร้อย


วิธีติดต่อจอง บริการรถรับจ้างขนย้ายภูเก็ต

การติดต่อและจอง บริการรถรับจ้างขนย้ายภูเก็ต มีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

    การติดต่อ : คุณสามารถติดต่อ ขนส่งผ่านหลายช่องทาง เช่น โทรศัพท์, อีเมล, หรือแม้กระทั่งสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการขนย้ายที่อยู่และการจองรถรับจ้าง
    ข้อมูลที่ต้องให้ : เมื่อคุณติดต่อ ขนส่ง เจ้าหน้าที่จะต้องการข้อมูลเกี่ยวกับการย้ายที่อยู่ของคุณ เช่น วันที่ที่คุณต้องการให้ของของคุณถูกขนย้าย, สถานที่ต้นทางและปลายทาง, ปริมาณของของที่ต้องการขนย้าย, และความจำเป็นเพิ่มเติมอื่น ๆ
    ขอใบเสนอราคา : หลังจากที่คุณได้ระบุข้อมูลการย้ายที่อยู่ที่เจ้าหน้าที่ ศิริภักดีขน ส่งจะต้องการขอใบเสนอราคา เพื่อประมาณราคาในการให้บริการขนย้ายของของคุณ โดยใบเสนอราคาจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับราคา รายละเอียดของการบริการ และเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง
    การยืนยันการจอง : หลังจากที่คุณตกลงกับรายละเอียดและเงื่อนไขที่ระบุในใบเสนอราคา คุณจะต้องยืนยันการจองโดยชำระเงินล่วงหน้าหรือตามเงื่อนไขที่กำหนดโดยขนส่ง
    การจัดส่ง : ในวันและเวลาที่กำหนด, รถรับจ้างของขนส่ง จะมายังที่อยู่ของคุณเพื่อขนย้ายของของคุณไปยังสถานที่ปลายทางที่คุณระบุ
    การติดตาม : หลังจากที่ของของคุณได้ถูกขนย้าย คุณสามารถติดตามสถานะของการจัดส่งได้ผ่านช่องทางการติดต่อที่คุณเลือกเช่น โทรศัพท์หรืออีเมล

การติดต่อและจอง บริการรถรับจ้างขนย้ายภูเก็ต เป็นขั้นตอนที่ง่ายและสะดวก เพียงแค่คุณมีข้อมูลที่เพียงพอเกี่ยวกับการย้ายที่อยู่ของคุณและติดต่อเจ้าหน้าที่ ขนส่ง ตามช่องทางที่คุณเลือก คุณจะสามารถขนย้ายที่อยู่ไปยังสถานที่ใหม่ได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย

5
ข้อควรระวังการบริหารยาทางสายให้อาหารสายยาง

การให้อาหารทางสายยาง เป็นการให้อาหารสำหรับผู้ป่วยที่มีระบบทางเดินอาหาร สามารถทำงานเป็นปกติ แต่ไม่สามารถรับประทานอาหารเองได้ จึงต้องมีความจำเป็นที่จะให้ผู้ป่วยได้รับอาหารทางสายยาง โดยจะมีสองวิธีคือ ให้อาหารทางสายยางผ่านรูจมูก และการให้อาหารทางสายยาง

โดยการเจาะบริเวณหน้าท้อง และสอดสายยางไปยังกระเพาะอาหารโดยตรง ประโยชน์ในการให้อาหารทางสายยาง ก็คือ การป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยเกิดภาวะขาดสารอาหาร และยังสร้างสมดุลและการทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้อย่างเป็นปกติ ในบางกรณีผู้ป่วยจะต้องให้ยาทางสายยางให้อาหาร ถือเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะปัญหาที่จะพบได้บ่อยจากการบริหารยาผ่านทางสายยางให้อาหารคือ การอุดตันของสายยางให้อาหาร การเกิดพิษของยา การดูดซึมของยา และเสี่ยงในเรื่องของการติดเชื้อด้วย บางครั้งอาจจะทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลงด้วย

สำหรับสิ่งที่ต้องคำนึงในเรื่องของการบริหารยาผ่านทางสายยางให้อาหาร ต้องตรวจสอบก่อนว่ายาสามารถบริหารผ่านทางสายยางได้ดีหรือไม่ ชนิดของสายยาง ตำแหน่งของสายยาง ตำแหน่งที่ยาออกฤทธิ์ หรือการดูดซึมของยา และที่สำคัญคือสูตรของอาหาร และที่สำคัญความสะอาดของอาหารที่ต้องให้กับผู้ป่วย จะมีความสะอาด ปลอดภัย เพื่อให้ผู้ป่วยแล้ว ผู้ป่วยจะไม่มีอาการท้องเสีย หรืออาเจียน หรือเกิดภาวะแพ้อาหาร

ซึ่งทางนักโภชนาการผู้ออกแบบสูตรอาหารจะต้องทราบข้อมูลประวัติการแพ้อาหารของผู้ป่วยด้วย เพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นพิษแก่ผู้ป่วย หากผู้ป่วยเกิดอาหารแพ้อาหาร อาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ป่วยและอาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการช็อคได้ เนื่องจากแพ้อหารนั่นเอง

นอกจากนี้ ยาที่จะต้องให้ผู้ป่วย ก็ต้องตรวจสอบให้ดีว่าถูกต้องหรือไม่ และตัวยา สามารถให้ผู้ป่วยทางสายยางได้หรือไม่ เพราะยาบางชนิด ไม่เหมาะกับการบริหารยาทางสายยางให้อาหาร โดยเฉพาะยาที่ห้ามหัก ห้ามบด ห้ามเคี้ยว เพราะยาบางชนิดถูกออกแบบให้ผ่านกระเพาะอาหารไปปลดปล่อยและดูดซึมในลำไส้ เพื่อป้องกันการระคายเคืองวของกระเพาะอาหาร ป้องกันการถูกทำลายด้วยกรดในกระเพาะอาหาร ยกตัวอย่างเช่น Enteric coating จะไม่สามารถถูกบดให้ละเอียดได้ แต่จะแตกออกเป็นชิ้นเล็กๆ ซึ่งจะจับกลุ่มกันอีกครั้ง ถ้าสัมผัสความชื้นหรือน้ำ ทำให้เกิดการอุดตันของสายยางให้อาหาร ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยไม่ได้รับยาในปริมาณที่ต้องการ และอาจจะทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลง

6
หมอออนไลน์: นิ่วท่อไต (Ureteric stone/Ureteral stone)

นิ่วท่อไต (นิ่วในท่อไต ก็เรียก) เป็นนิ่วขนาดเล็กที่เกิดขึ้นในไตแล้วตกลงมาในท่อไต เป็นเหตุให้ท่อไตเกิดการบีบตัวเพื่อขับนิ่วออก ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดท้องรุนแรง เป็นโรคที่พบได้ค่อนข้างบ่อยในคนทั่วไป

สาเหตุ

นิ่วในท่อไต เป็นนิ่วขนาดเล็กที่เกิดขึ้นในไตแล้วตกลงมาในท่อไต มีสาเหตุของการเกิดนิ่วแบบเดียวกับนิ่วในไต (ดู "โรคนิ่วไต")


อาการ

ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องรุนแรง โดยมีลักษณะปวดบิดเป็นพัก ๆ ตรงบริเวณท้องน้อยข้างใดข้างหนึ่งเพียงข้างเดียว นานเป็นชั่วโมง ๆ หรือเป็นวัน ๆ

ลักษณะเฉพาะของโรคนี้คือ จะมีอาการปวดร้าวไปที่หลังและต้นขาด้านใน (ปวดไปที่อัณฑะหรือช่องคลอดข้างเดียวกับท้องน้อยที่ปวด) ผู้ป่วยมักจะปวดจนดิ้นไปมา หรือใช้มือกดไว้จะรู้สึกดีขึ้น

บางรายอาจปวดมากจนมีอาการเหงื่อออก ตัวเย็น ใจสั่นใจหวิว คลื่นไส้ อาเจียน

ผู้ป่วยจะไม่มีอาการขัดเบา ปัสสาวะมักจะใสเช่นปกติ ไม่ขุ่น ไม่แดง (ยกเว้นบางรายอาจมีปัสสาวะขุ่นแดง)


ภาวะแทรกซ้อน

ถ้านิ่วก้อนใหญ่หลุดออกเองไม่ได้ ทิ้งไว้อาจทำให้มีการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะ และไตวายได้


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย

การตรวจร่างกายมักจะไม่พบสิ่งผิดปกติ บางรายอาจพบว่ากล้ามเนื้อหน้าท้องและหลังมีอาการเกร็งตัว หรือมีอาการกดเจ็บเล็กน้อยตรงบริเวณที่ปวด

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจปัสสาวะ (พบว่ามีเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะ) และอาจทำการตรวจพิเศษ เช่น เอกซเรย์ อัลตราซาวนด์ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ การใช้กล้องส่องตรวจท่อไต


การรักษาโดยแพทย์

นอกจากแนะนำการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วยแล้ว แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

    ให้ยาบรรเทาปวด ได้แก่ ยาแอนติสปาสโมดิก ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ชนิดกินหรือฉีด
    ในรายที่มีสาเหตุชัดเจน ก็จะให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ เช่น ให้ยารักษาโรคเกาต์ในรายที่เป็นโรคเกาต์
    แนะนำให้ผู้ป่วยสังเกตว่า เวลาถ่ายปัสสาวะมีก้อนนิ่วหลุดออกมาหรือไม่ และนัดมาดูอาการเป็นระยะ ถ้านิ่วก้อนเล็กอาจหลุดออกมาได้เอง 
    ถ้าก้อนใหญ่ก็จะทำการผ่าตัดเอานิ่วออก หรือใช้เครื่องสลายนิ่ว (extracorporeal shock wave lithotripsy/ESWL) หรือใช้กล้องส่อง (ureteroscope) สอดใส่ผ่านทางท่อปัสสาวะขึ้นไปตามท่อไต แล้วใช้เครื่องมือในการนำเอานิ่วออกมา หรือทำให้นิ่วแตกละเอียดแล้วหลุดออกมากับปัสสาวะ แพทย์อาจใส่หลอดลวดตาข่าย (stent) ถ่างขยายค้างไว้ในท่อไต เพื่อให้ปัสสาวะไหลออกได้สะดวก

ผลการรักษา เมื่อเอานิ่วออกมาได้ก็จะหายเป็นปกติ แต่บางรายอาจเกิดนิ่วก้อนใหม่ในเวลาต่อมาก็จะให้การรักษาใหม่ ในรายที่เป็นนิ่วท่อไตแล้วปล่อยให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ก็จะมีความยุ่งยากในการรักษาตามมา


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการปวดท้องรุนแรง โดยมีลักษณะปวดบิดเป็นพัก ๆ ตรงบริเวณท้องน้อยข้างใดข้างหนึ่งเพียงข้างเดียว นานเป็นชั่วโมง ๆ ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นนิ่วท่อไต ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด

  ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลา 
    มีอาการปวดท้องมากขึ้น มีไข้ หนาวสั่น ปวดที่สีข้าง ปัสสาวะขุ่น คลื่นไส้ อาเจียน
    ขาดยาหรือยาหาย
    กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกัน

1. ดื่มน้ำมาก ๆ ประมาณวันละ 8-12 แก้ว (2-3 ลิตร) ระวังอย่าให้ร่างกายขาดน้ำ 

2. หลีกเลี่ยงการกินวิตามินซีขนาดสูงเป็นประจำ และหลังกินวิตามินซีควรดื่มน้ำตามมาก ๆ

3. ลดการกินพืชผักที่มีสารออกซาเลตสูง

4. บริโภคเนื้อสัตว์และอาหารที่มีแคลเซียมให้พอเพียง อย่าให้มากเกิน

5. ถ้าเป็นโรคเกาต์ ควรรักษาอย่างจริงจัง และควบคุมกรดยูริกให้อยู่ในระดับปกติ


ข้อแนะนำ

1. นิ่วท่อไตส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็กเท่าหัวไม้ขีด (ขนาดเล็กกว่า 6 มม.) ซึ่งมักจะหลุดออกมาได้เอง ควรบอกให้ผู้ป่วยถ่ายปัสสาวะลงกระโถน เพื่อสังเกตดูว่ามีก้อนนิ่วออกมาหรือไม่ ส่วนมากมักจะหลุดออกมาภายในไม่กี่วัน

2. อาการปวดท้องจะหายดังปลิดทิ้งเมื่อนิ่วหลุดออกมา แต่ก็อาจเกิดนิ่วก้อนใหม่ในภายหลังได้อีก 

3. เมื่อรักษาหายแล้ว ควรป้องกันไม่ให้เป็นซ้ำ โดยดื่มน้ำวันละ 2-3 ลิตร ดื่มน้ำมะนาววันละ 1 แก้ว (เพิ่มสารซิเทรตในปัสสาวะ ช่วยยับยั้งการเกิดนิ่ว) ลดอาหารที่มีกรดยูริก แคลเซียม และออกซาเลตสูง

7
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


8
ตลาดน้ำ นครปฐม เที่ยวไทยใกล้กรุงเทพ หาของอร่อย ดีต่อใจ วันหยุด

ตลาดน้ำในจังหวัดนครปฐมเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ในวันหยุด เพื่อหาของอร่อยและพักผ่อนหย่อนใจค่ะ มีหลายตลาดน้ำที่มีเอกลักษณ์และน่าสนใจ ลองพิจารณาตลาดน้ำเหล่านี้ดูนะคะ


ตลาดน้ำนครปฐมที่น่าสนใจ


ตลาดน้ำทุ่งบัวแดง ณ บางเลน (บัวแดง ฟาร์ม)

จุดเด่น: ไม่ได้เป็นแค่ตลาดน้ำทั่วไป แต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีทุ่งบัวแดงขนาดใหญ่ให้พายเรือชมความงาม สามารถถ่ายรูปสวยๆ ได้เยอะมาก และมีร้านค้าขายอาหาร เครื่องดื่ม ของฝาก

บรรยากาศ: เน้นความร่มรื่น วิวธรรมชาติของทุ่งบัวและท้องทุ่งนา

ของอร่อย: มีอาหารคาวหวานหลากหลาย ทั้งอาหารไทย ของกินเล่น และเครื่องดื่ม

เหมาะสำหรับ: คนที่ชอบถ่ายรูป ชอบธรรมชาติ และอยากได้บรรยากาศแบบชนบท


ตลาดน้ำลำพญา

จุดเด่น: เป็นตลาดน้ำเก่าแก่ริมแม่น้ำท่าจีน ที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชุมชนริมน้ำ มีแพอาหารลอยน้ำให้เลือกนั่งทานอาหารพร้อมชมวิวแม่น้ำ และมีเรือนำเที่ยวชมสองฝั่งคลอง

บรรยากาศ: คลาสสิก ย้อนยุค มีความสงบและเป็นกันเอง

ของอร่อย: อาหารไทยโบราณ ขนมไทยหายาก อาหารทะเลสดๆ จากชาวบ้าน และผลไม้ตามฤดูกาล

เหมาะสำหรับ: คนที่ชอบสัมผัสวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ชอบอาหารท้องถิ่น และอยากล่องเรือชมวิว


ตลาดน้ำดอนหวาย

จุดเด่น: เป็นตลาดเก่าแก่ริมแม่น้ำท่าจีนเช่นกัน แต่จะคึกคักกว่าลำพญา มีชื่อเสียงเรื่องอาหารอร่อยและของฝากมากมาย โดยเฉพาะเป็ดพะโล้และขนมจีนน้ำยา

บรรยากาศ: คึกคัก มีชีวิตชีวา ร้านค้าเรียงรายตลอดทางเดินริมน้ำ

ของอร่อย: เป็ดพะโล้ ขนมจีนน้ำยา ข้าวหลาม ขนมตาล และอาหารคาวหวานอีกมากมาย

เหมาะสำหรับ: สายกินตัวจริงที่ต้องการลิ้มลองอาหารอร่อยหลากหลาย และชอบบรรยากาศตลาดที่คึกคัก

ข้อแนะนำเพิ่มเติมสำหรับทริป 1 วัน

การเดินทาง: ทุกตลาดน้ำที่กล่าวมาสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจากกรุงเทพฯ ได้สะดวก ใช้เวลาประมาณ 1-1.5 ชั่วโมง

ช่วงเวลาที่เหมาะสม: ควรไปช่วงสายๆ (ประมาณ 10.00 - 11.00 น.) เพื่อหลีกเลี่ยงคนเยอะและอากาศร้อนจัด และมีเวลาเดินเล่นได้เต็มที่

เตรียมตัว: เตรียมหมวก แว่นกันแดด และร่ม หากไปช่วงกลางวันอากาศอาจจะร้อน

เงินสด: บางร้านค้าอาจรับเฉพาะเงินสด ควรเตรียมเงินสดติดตัวไปด้วย

การไปตลาดน้ำที่นครปฐมเป็นกิจกรรมที่เหมาะกับการพักผ่อนในวันหยุดสั้นๆ ใกล้กรุงเทพฯ ได้ทั้งเดินเล่น ชมวิว ช้อปปิ้ง และอิ่มอร่อยกับอาหารหลากหลาย รับรองว่าดีต่อใจแน่นอนค่ะ!

9
ตรวจอาการด้วยตนเอง: ครรภ์ไข่ปลาอุก (Molar pregnancy/Hydatidiform mole)

ครรภ์ไข่ปลาอุก เป็นภาวะผิดปกติของการตั้งครรภ์ ซึ่งตัวอ่อนของทารกและรกในครรภ์มารดามีการเจริญที่ผิดปกติ และเนื้อเยื่อรกกลายเป็นเนื้องอก ส่วนมากจะเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้าย (benign tumor) ที่ไม่มีอันตรายร้ายแรง ส่วนน้อย (ประมาณร้อยละ 2) ที่อาจกลายเป็นเนื้อร้ายหรือมะเร็งเยื่อรก (choriocarcinoma) ที่อาจลุกลามและแพร่กระจายตามกระแสเลือดไปทั่วร่างกาย

อาการมักเกิดในระยะแรก ๆ (ประมาณ 10-16 สัปดาห์) ของการตั้งครรภ์ บางครั้งอาจเกิดจากรกที่ค้างอยู่ในมดลูกหลังคลอดหรือแท้งบุตร

โรคนี้อาจพบได้ประปรายประมาณ 1 ราย ใน 1,000 รายของการตั้งครรภ์

อาจพบร่วมกับอาการแพ้ท้องรุนแรงหรือครรภ์เป็นพิษ


สาเหตุ

เกิดจากความผิดปกติของไข่ที่ถูกผสม ทำให้ไข่ที่ถูกผสมไม่มีการเจริญเติบโตเป็นตัวอ่อนของทารกและรกที่สมบูรณ์ และเนื้อเยื่อรกกลายเป็นเนื้องอก

ตามปกติ ไข่ที่ถูกผสมจะมีโครโมโซม 23 คู่ ซึ่งมาจากไข่ของผู้หญิงและอสุจิของผู้ชายอย่างละ 23 แท่งเท่ากัน แต่ในครรภ์ไข่ปลาอุก ไข่ที่ถูกผสมจะมีโครโมโซมผิดไปจากปกติ  อาจมีจำนวนโครโมโซม 46 แท่ง ซึ่งมาจากอสุจิของชายทั้งหมด (โดยอสุจิ 1-2 ตัวผสมกับไข่ของหญิงที่ไม่มีโครโมโซม ทำให้ไม่เกิดตัวอ่อนของทารก มีแต่เนื้อเยื่อรกที่ผิดปกติล้วน ๆ เรียกว่า "ครรภ์ไข่ปลาอุกชนิดสมบูรณ์" หรือ "complete molar pregnancy" คือ เป็นครรภ์ไข่ปลาอุกล้วน) หรือ 69 แท่ง (เป็นโครโมโซมจากหญิง 23 แท่ง กับจากชาย 46  แท่ง จากการที่ไข่ผสมกับอสุจิ 2 ตัว ทำให้เกิดตัวอ่อนของทารกที่ผิดปกติ ซึ่งไม่สามารถอยู่รอดได้ และเนื้อเยื่อรกที่ผิดปกติ เรียกว่า "ครรภ์ไข่ปลาอุกชนิดไม่สมบูรณ์" หรือ "Incomplete molar pregnancy" คือ เป็นครรภ์ไข่ปลาอุกร่วมกับมีทารก)

มักพบในหญิงอายุมากกว่า 35 ปี หรืออายุน้อยกว่า 20 ปี

หญิงที่เคยตั้งครรภ์ไข่ปลาอุกหรือเคยแท้งบุตรมาก่อน มีความเสี่ยงต่อการเกิดครรภ์ไข่ปลาอุกมากกว่าปกติ


อาการ

อาการมักเกิดหลังตั้งครรภ์ใหม่ ๆ พบว่าขนาดของมดลูกโตเร็วกว่าปกติ คลำได้ขนาดของมดลูกโตกว่าอายุครรภ์ที่ควรจะเป็น

นอกจากนี้ยังพบอาการเลือดออกกะปริดกะปรอยทางช่องคลอดคล้ายกับแท้งบุตร

มักจะพบว่าทารกในท้องไม่ดิ้น และมีอาการแพ้ท้อง คือคลื่นไส้อาเจียนอย่างรุนแรง

บางครั้งอาจมีชิ้นเนื้อลักษณะคล้ายไข่ปลาอุกหลุดออกมาทางช่องคลอด ด้วยเหตุนี้จึงเรียกโรคนี้ว่า ครรภ์ไข่ปลาอุก

บางรายอาจมีเลือดออกนานเป็นสัปดาห์ หรือเป็นเดือนจนทำให้มีอาการซีด อ่อนเพลีย

ผู้ป่วยอาจมีอาการแสดงของภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน (เช่น เหนื่อยง่าย ใจสั่น ชีพจรเต้นเร็ว ร่วมด้วย เนื่องจากฮอร์โมนเอชซีจี (ที่รกสร้าง) มีปริมาณสูงจะมีฤทธิ์อ่อน ๆ ในการกระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์ทำงานมากกว่าปกติ) หรือครรภ์เป็นพิษ (ปวดศีรษะ ตามัว เท้าบวม ตรวจพบความดันโลหิตสูง และสารไข่ขาวในปัสสาวะ)


ภาวะแทรกซ้อน

ผู้ป่วยอาจมีภาวะครรภ์เป็นพิษ (ซึ่งจะพบก่อนอายุครรภ์ 5 เดือน) และภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินร่วมด้วย

ราวร้อยละ 5 ของผู้ป่วยไข่ปลาอุกชนิดไม่สมบูรณ์ และร้อยละ 15-20 ของผู้ป่วยไข่ปลาอุกชนิดสมบูรณ์ อาจมีอาการของโรคไข่ปลาอุกกำเริบต่อไปหลังการรักษาด้วยการขูดมดลูก (นำเนื้อเยื่อครรภ์ไข่ปลาอุกออกไป) เนื่องจากมีเนื้อเยื่อรกที่เป็นเนื้องอกผิดปกติติดค้างในมดลูกและเจริญต่อไปได้ (เรียกว่า "Persistent gestational trophoblastic neoplasia (GTN)") ซึ่งอาจลุกลามเข้าไปในผนังมดลูก ทำให้มีเลือดออกจากช่องคลอด

บางรายอาจกลายเป็นมะเร็งเยื่อรก (ซึ่งพบในครรภ์ไข่ปลาอุกชนิดสมบูรณ์มากกว่าชนิดไม่สมบูรณ์) ซึ่งสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบได้แต่น้อยมาก คือ การติดเชื้อเนื่องจากมีเนื้อเยื่อรกที่ตายค้างอยู่ในมดลูก ซึ่งอาจกลายเป็นโลหิตเป็นพิษ


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและการตรวจร่างกาย อาจพบความดันโลหิตสูง ซีด ชีพจรเต้นเร็ว มือสั่น

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจฮอร์โมนเอชซีจี ในเลือดและปัสสาวะซึ่งจะพบว่ามีขนาดสูงกว่าที่พบในการตั้งครรภ์ปกติ

แพทย์จะทำการตรวจพิเศษ เช่น การตรวจอัลตราซาวนด์ การตรวจชิ้นเนื้อ


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะทำการขูดมดลูก และให้ผู้ป่วยกินยาเม็ดคุมกำเนิดนาน 6 เดือนภายหลังการขูดมดลูก หรือทำการผ่าตัดมดลูกตามแต่สภาพของผู้ป่วย ถ้าอายุมากหรือมีบุตรเพียงพอ อาจทำการผ่าตัดเอามดลูกออก

หลังจากนั้น แพทย์จะนัดมาตรวจระดับเอชซีจีในปัสสาวะ และเอกซเรย์ปอดเป็นระยะ เป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี เพื่อสังเกตว่าจะมีการกำเริบหรือกลายเป็นมะเร็งหรือไม่

ถ้าพบว่าระดับเอชซีจีไม่ลด หรือกลับเพิ่มขึ้น (ซึ่งแสดงว่าเป็น persistent gestational trophoblastic neoplasia) แพทย์จะให้การรักษาด้วยการผ่าตัดมดลูก หรือเคมีบำบัด เช่น เมโทเทรกเซต (methotrexate), แดกติโนไมซิน (dactinomycin ), ไซโคลฟอสฟาไมด์ (cyclophosphamide), วินคริสทีน (vincristine) เป็นต้น หลังจากโรคทุเลา ผู้ป่วยที่ไม่ได้ตัดมดลูก ควรกินยาเม็ดคุมกำเนิดนาน 12 เดือน

ในรายที่กลายเป็นมะเร็งเยื่อรก (choriocarcinoma) แพทย์จะให้การรักษาด้วยเคมีบำบัดด้วยยาหลายชนิดร่วมกัน บางรายแพทย์อาจรักษาด้วยการผ่าตัด หรือรังสีบำบัดร่วมด้วย

ผลการรักษา สามารถรักษาให้หายขาดเป็นส่วนใหญ่ แม้แต่มะเร็งเยื่อรก ถ้ายังไม่แพร่กระจายไปที่อื่นก็รักษาให้หายขาดได้แทบทุกราย

การดูแลตนเอง

หากสงสัยหลังตั้งครรภ์พบว่ามีเลือดออกทางช่องคลอด มดลูกโตเร็วกว่าปกติ ทารกในท้องไม่ดิ้น มีอาการแพ้คลื่นไส้อาเจียนอย่างรุนแรง มีชิ้นเนื้อลักษณะคล้ายไข่ปลาอุกหลุดออกมาทางช่องคลอด หรือมีอาการของต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน (เหนื่อยง่าย ใจสั่น) หรือครรภ์เป็นพิษ (ปวดศีรษะ ตามัว เท้าบวม) ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นครรภ์ไข่ปลาอุก ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการปวดท้อง มีเลือดออกทางช่องคลอด ซีด มีอาการเหนื่อยง่าย ใจสั่น ปวดศีรษะ ตามัว หรือเท้าบวม 
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล

สำหรับผู้ที่เคยเป็นครรภ์ไข่ปลาอุก ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ ควรปรึกษาแพทย์ในการวางแผนที่จะมีการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย แพทย์มักจะแนะนำให้คุมกำเนิดนาน 6-12 เดือนก่อนที่จะตั้งครรภ์ใหม่ และเมื่อตั้งครรภ์ควรฝากครรภ์แต่เนิ่น ๆ แพทย์จะทำการตรวจอัลตราซาวนด์ให้เร็วขึ้นรวมทั้งการตรวจพิเศษอื่น ๆ เพื่อการวินิจฉัยความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นและให้การดูแลรักษาตั้งแต่แรกเริ่ม

ข้อแนะนำ

1. โรคนี้ถึงแม้จะพบได้ไม่บ่อยนัก แต่ถ้ามีอาการที่น่าสงสัย เช่น มดลูกโตเร็ว เลือดออกทางช่องคลอดกะปริดกะปรอย หรือแพ้ท้องรุนแรง ควรส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลให้แน่ใจ และถ้าเป็นโรคนี้จริง ควรแนะนำให้ผู้ป่วยรักษากับแพทย์ตามนัดอย่างต่อเนื่อง ก็มีทางรักษาให้หายขาดได้ (ถึงแม้จะกลายเป็นมะเร็งเยื่อรกก็ตาม) แต่ถ้ากลายเป็นมะเร็งเยื่อรกแล้วไม่ได้รักษาจริง ๆ จัง ๆ ก็อาจแพร่กระจายไปทั่วตัว เป็นอันตรายถึงเสียชีวิตได้

2. หลังจากรักษาจนหายขาด ผู้ป่วยที่มีอายุไม่มากและยังไม่ได้ผ่าตัดมดลูก สามารถมีบุตรได้ใหม่ และโอกาสจะเป็นโรคนี้ซ้ำอีกมีน้อยมาก (ประมาณร้อยละ 1)


10
ทำไมเด็กเล็ก จึงไม่ควรเข้ารับการจัดฟันเด็ก แบบสวมใส่เหล็กจัดฟัน
 
การจัดฟันในเด็ก เป็นการรักษาทางทันตกรรมสำหรับเด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟัน ซึ่งต้องบอกว่า การจัดฟันในเด็กนั้น สามารถแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยทีเดียว โดยการจัดฟันในเด็กจะสามารถทำได้ เมื่อเด็กเริ่มมีฟันแท้ขึ้นบางส่วนในช่องปาก และมีปัญหาจนต้องมีความความจำเป็นที่ต้องได้รับการจัดฟัน เพื่อแก้ไขความผิดปกติของการสบฟัน หรือตำแหน่งขากรรไกรที่ผิดปกติ

ซึ่งการจัดฟันในเด็กจะต้องได้รับความร่วมมือจากเด็กและผู้ปกครองเป็นสำคัญ อีกทั้งยังต้องมีการดูแลช่องปากเป็นอย่างดี ในเรื่องของความร่วมมือในการรักษา ถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะถ้าหากเด็กไม่มีความร่วมมือก็อาจจะทำให้การจัดฟันในเด็ก ล้มเหลวได้ ดังนั้น การจัดฟันในเด็กจึงแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ การจัดฟันในเด็กด้วยการใช้เครื่องมือจัดฟัน EF LINE และการจัดในเด็กแบบสวมใส่เหล็กจัดฟัน

ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองอาจะมีความเข้าใจว่า การจัดฟันในเด็กเล็กนั้น สามารถใช้เครื่องมือการจัดฟันได้ แต่ความจริงแล้ว การจัดฟันในเด็กเล็กนั้น เหมาะสมกับการใช้เครื่องมือ แบบ EF LINE มากกว่า ดังนั้น วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของ ทำไมเด็กเล็ก จึงไม่ควรเข้ารับการจัดฟันในเด็ก แบบสวมใส่เหล็กจัดฟัน ซึ่งอาจจะไขข้อสงสัยให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนได้ ที่กำลังสนใจให้บุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟัน
 
สำหรับการจัดฟันในเด็กนั้น เด็กสามารถเข้ารับการจัดฟันได้ตั้งแต่อายุ 4-15 ปี ซึ่งเด็กที่เริ่มมีฟันแท้งอกออกมาก็สามารถที่จะเข้ารับการจัดฟันในเด็กได้แล้ว และการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรูปร่างฟัน โครงสร้างของใบหน้า ปรับตำแหน่งลิ้น สำหรับเด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับฟันที่มีพฤติกรรมการดูดขวดนม การดูดนิ้ว ซึ่งเด็กเล็กเหมาะสมที่จะเข้ารับการจัดฟันด้วยการใช้เครื่องมือ EF LINE

เพราะจะช่วยแก้ไขปัญหาฟันที่มีการสบฟันที่ผิดปกติได้ ซึ่งเครื่องมือ EF LINE มีลักษณะเป็นชิ้นยาง ซึ่งเด็กสามารถสวมใส่ได้อย่างง่าย สะดวกสบาย ไม่ทำให้รู้สึกระคายเคืองด้วย และที่บอกว่า การเข้ารับการจัดฟันในเด็ก แบบสวมใส่เครื่องมือแบบติดแน่น หรือที่เรียกว่าเหล็กจัดฟัน ยังไม่เหมาะสำหรับเด็กเล็กที่มีอายุ 4 ปี เนื่องจาก เด็กในวัยนี้ยังไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับดูแรักษาความสะอาดช่องปากและฟันได้ดีเท่าที่ควร อาจจะทำให้เกิดฟันผุได้ ซึ่งถ้าหากเด็กที่มีอายุ 4 ปี มีปัญหาในเรื่องของฟัน การจัดฟันในเด็ก ด้วยเครื่องมือ EF LINE จึงมีความเหมาะสมมากกว่า

เพราะฉะนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะเข้าใจรูปแบบและปัญหาอย่างแท้จริงขิงเด็กเสียก่อน ซึ่งทางทันตแพทย์อาจจะแนะนำให้เด็กเข้ารับการจัดฟันด้วยรูปแบบที่เหมาะสม แต่สำหรับเด็กที่เหมาะสมที่จะเข้ารับการจัดฟันในเด็ก แบบสวมใส่เหล็กจัดฟัน ก็ต้องมีการดูแลรักษาความสะอาดอย่างดี ควรใช้ไหมขัดฟันก่อนแปรงฟัน จะเป็นการขจัดเชื้อโรคไปด้วย แล้วจึงแปรงฟันด้วยแปรงขนนุ่ม โดยเลือกขนาดของแปรงให้เหมาะกับช่องปากและฟัน สำหรับยาสีฟันควรมีส่วนผสมของฟลูออไรด์เพื่อป้องกันฟันผุได้
 
หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก เพราะคลินิกของเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการจัดฟันในเด็กและมีประสบการณ์อย่างยาวนาน จึงทำให้สามารถแนะนำหรือแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างถูกวิธีและทันตแพทย์ของเรายังสามารถช่วยประเมินปัญหาและแนะนำแนวทางการแก้ไขได้อย่างตรงจุด สามารถแนะนำวิธีการรักษา

โดยยึดหลักปัญหาฟันของเด็กเพื่อให้เด็กได้รับการรักษาที่ถูกวิธี เพราะเราอยากให้เด็กๆทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี ซึ่งการที่บุตรหลานของท่านมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีนั้น จะเป็นการช่วยส่งเสริมในเรื่องของพัฒนาการในเด้กได้อย่างดีอีกด้วย เพราะเด็กจะได้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่มากยิ่งขึ้น

11
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น

•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


12
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


13
ทำอาชีพเสริม จากการขายผัดกะเพราหมูกรอบ หอมกลิ่นใบกะเพรา เมนูอาหารตามสั่งยอดฮิตของคนไทย

เมื่อพูดถึงอาหารริมทางของไทยผัดกะเพราหมูกรอบเป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมและน่าพึงพอใจที่สุดที่คุณสามารถสั่งได้ในร้านอาหารท้องถิ่น อาหารจานนี้ขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติที่เข้มข้น เนื้อสัมผัสที่กรอบและรสชาติที่ลงตัวของความเผ็ดร้อนและกลิ่นหอม กะเพราหมูกรอบเป็นเมนูอาหารตามสั่งยอดนิยมของไทยที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยรสชาติที่จัดจ้าน หอมกลิ่นใบกะเพราและความกรุบกรอบของหมูกรอบ

ทำให้เป็นเมนูที่ใครหลายคนชื่นชอบทำให้อาหารจานนี้เป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับผู้ชื่นชอบอาหารไทย

ผัดกะเพราหมูกรอบ คืออะไร ?
ผัดกะเพราหมูกรอบ ประกอบด้วยหมูสามชั้นทอดกรอบผัดกับกะเพรา กระเทียม พริกสด และซอสรสเข้มข้นที่ทำจากซอสหอยนางรม ซอสถั่วเหลือง และน้ำปลา มักเสิร์ฟพร้อมข้าวหอมมะลินึ่งและไข่ดาวเพื่อเพิ่มความอร่อย

ทำไมมันถึงเป็นที่นิยม?
รสชาติที่เข้มข้น – การผสมผสานกันระหว่างหมูสามชั้นกรอบ โหระพาหอม และพริกเผ็ดสร้างรสชาติอูมามิที่น่ารับประทาน
รวดเร็วและง่ายดาย – เป็นอาหารจานง่ายๆ แต่มีคุณค่าทางโภชนาการ ปรุงได้ภายในไม่กี่นาที เหมาะสำหรับวิถีชีวิตที่เร่งรีบ
ปรับแต่งได้ – คุณสามารถปรับระดับความเผ็ด เพิ่มผัก หรือเปลี่ยนหมูกรอบเป็นไก่ เนื้อวัว หรือเต้าหู้ได้
ทานคู่กับข้าวสวย – รสชาติที่เข้มข้นของเมนูนี้เข้ากันได้ดีกับข้าวสวย ทำให้เป็นมื้ออาหารที่ครบถ้วนและอิ่มอร่อย

เคล็ดลับความอร่อย
หมูกรอบควรเลือกที่สดใหม่และกรอบ
ใบกะเพราควรเลือกใบที่สดใหม่และมีกลิ่นหอม
ปรุงรสให้ได้รสชาติที่ชอบ สามารถเพิ่มหรือลดปริมาณเครื่องปรุงได้ตามต้องการ
บางคนอาจเพิ่มส่วนผสมอื่น ๆ เช่น ถั่วฝักยาว หรือข้าวโพดอ่อน เพื่อเพิ่มรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ

คุณค่าทางโภชนาการ
กะเพราหมูกรอบให้พลังงานสูง เนื่องจากมีส่วนประกอบของหมูกรอบซึ่งมีไขมันสูง อย่างไรก็ตาม ยังมีคุณค่าทางโภชนาการจากใบกะเพราที่มีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ

ข้อควรระวัง
ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม เนื่องจากมีไขมันสูง
ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ หรือความดันโลหิตสูง ควรระมัดระวังในการรับประทาน
กะเพราหมูกรอบเป็นเมนูที่ทำได้ง่ายและอร่อย หากใครที่ชื่นชอบอาหารรสจัดจ้าน ไม่ควรพลาดเมนูนี้

วิธีการเพลิดเพลินไปกับมัน
หากต้องการสัมผัสรสชาติที่แท้จริง ให้สั่งแบบเผ็ดเพื่อสัมผัสความเผ็ดร้อนจากพริกไทยไทยสดๆ
จับคู่กับไข่ดาว กรอบๆ เพื่อเพิ่มความเข้มข้น
แตงกวาสดหั่นเป็นชิ้นเคียงมาช่วยปรับสมดุลความร้อนและเพิ่มความสดชื่นให้กับจานอาหาร

ผัดกะเพราหมูกรอบเป็นเมนูที่ใครๆ ก็ต้องลองชิม ไม่ว่าคุณจะไปกินที่ร้านข้างทางหรือทำเองที่บ้าน รสชาติที่จัดจ้านและเนื้อหมูกรอบจะทำให้คุณอยากกลับมากินอีกแน่นอน หากคุณยังไม่เคยลอง รับรองว่าคุณต้องติดใจ

14
รถรับจ้างราคาถูก รถกระบะรับจ้างขนของสุราษฎร์ธานี รับจ้างขนของ ย้ายบ้าน หอ ขนส่งสินค้า

ขออัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับ รถกระบะรับจ้าง ของทีมงานขนส่ง ผู้นำด้านงานบริการ รถกระบะรับจ้างจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเขตจังหวัดโดยรอบเราให้บริการ ขนของย้ายบ้าน ขนย้ายหอพัก ขนย้ายคอนโด ขนย้ายสินค้าของผู้บริโภคทั่วไปของ รถกระบะรับจ้างจังหวัดสุราษฎร์ธานี  ที่สามารถขนย้ายในปริมาณที่ไม่เยอะมาก เราให้บริการ รถกระบะรับจ้าง มีอยู่ 2 แบบด้วยกันนั่นก็คือ รถกระบะรับจ้างแบบคอกสูง ลักษณะของรถจะเป็นโครงเหล็กกระบะสูง โดยหากทำการขนย้ายจะใช้ผ้าใบอย่างหนาคลุมเป็นอย่างดีเพื่อป้องกัน ฝนตก ฝุ่น หรืออื่นๆ ส่วนอีกแบบหนึ่งก็จะเป็น รถกระบะรับจ้าง แบบตู้ทึบ โดยจะเป็นตู้สแตนเลสทั้งใบมีความมิตรชิด สามารถใส่สินค้าในรูปของกล่องสินค้าที่สามารถจัดเรียงขึ้นรูปได้อย่างสบายหรืออาจจะเป็น งาน ขนย้ายบ้าน ขนย้ายหอ หรือ ขนย้ายสินค้าโรงงาน เป็นต้น เราให้บริการรถกระบะรับจ้างขนของมาอย่างยาวนานกว่า 15 ปี

จึงทำให้เรามีความชำนาญในการขนย้ายสินค้ามากพอสมควร จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้เรามีความมั่นใจในการทำงานเป็นอย่างมาก เพราะว่างานทุกงานขนย้ายของเราไม่เคยมีอุบัติเหตุ หรือทำให้สินค้าของลูกค้าเกิดการแตกชำรุดเสียหายเลย ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการ อบรมพนักงานที่ดีมีมาตรฐานซึ่งเราจะเน้นย้ำกับพนักงานขับรถจนถึงการยกสินค้าจะต้องมีความระมัดระวังในการทำงานให้มากเป็นพิเศษ จึงทำให้ทุกวันนี้เราถือได้ว่าเป็นผู้นำด้านงานบริการ ขนย้ายของในเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี นั่นเอง หากลูกค้าสนใจที่จะเรียกใช้บริการ รถรับจ้าง ขนของจังหวัดสุราษฎร์ธานี กับทีมงานขนส่งของเราแล้วท่านก็สามารถโทรเข้ามาสอบถามตรวจเช็คราคา ค่าขนย้ายกับเราได้ตลอด 24 ชั่วโมงหรือจะติดต่อมาทาง facebook หรือ twitter ก็ได้เช่นกันแต่หากต้องการที่จะต่อรองราคา

รถกระบะขนของรับจ้างสุราษฎร์ธานี ของเราทุกคัน จะมีความใหม่และสะอาดมากเป็นพิเศษ ทุกการขนย้ายของลูกค้า โดยปกติแล้วเราจะทำความสะอาดรถก่อนและหลังจากขนย้ายของเสร็จ ในการขนย้ายสินค้าที่ประเภทใกล้เคียงกันเช่น การขนย้ายบ้านเราก็จะจัดงาน รับจ้างขนย้ายบ้าน ต่อๆกันเป็นหลัก ขนย้าย สินค้าทางการเกษตรก็จะไปในโซนของสินค้าทางการเกษตรเป็นหลักจะไม่เอามาปะปนกัน ซึ่งจะทำให้รถมีความสะอาดและจัดการวางแผนได้ง่าย เพื่อให้ลูกค้ามีความสบายใจว่าใช้รถบริการกับเราแล้ว สินค้าไม่มีเปื้อน เลอะ จากรถขนส่งอย่างแน่นอน

จุดพื้นที่ให้บริการ รถกระบะรับจ้างขนของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เรามีจุดพื้นที่บริการท่านอย่างมากมายหลายจุดประจำอำเภอ ประจำตำบล ประจำหมู่บ้าน โดยที่จะเน้นในเรื่องของความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าไม่ต้องขับรถออกมาจ้างรถที่อื่นที่ไกลๆ เราเตรียมความพร้อมมาให้คุณแล้ว ซึ่งมีจุดพื้นที่ให้บริการต่างๆดังนี้

รถกระบะรับจ้างเขตอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี

รถกระบะรับจ้างเขตอำเภอเกาะพงัน

รถกระบะรับจ้างเขตอำเภอเกาะสมุย

รถกระบะรับจ้างเขตอำเภอกาญจนดิษฐ์

รถกระบะรับจ้างเขตอำเภอเคียนซา

รถกระบะรับจ้างเขตอำเภอคีรีรัฐนิคม

รถกระบะรับจ้างเขตอำเภอไชยา

รถกระบะรับจ้างเขตอำเภอชัยบุรี

รถกระบะรับจ้างเขตอำเภอดอนสัก

รถกระบะรับจ้างเขตอำเภอท่าฉาง

รถกระบะรับจ้างเขตอำเภอท่าชนะ

รถกระบะรับจ้างเขตอำเภอบ้านตาขุน

รถกระบะรับจ้างเขตอำเภอบ้านนาเดิม

รถกระบะรับจ้างเขตอำเภอบ้านนาสาร

รถกระบะรับจ้างเขตอำเภอพนม

รถกระบะรับจ้างเขตอำเภอพระแสง

รถกระบะรับจ้างเขตอำเภอพุนพิน

รถกระบะรับจ้างเขตอำเภอวิภาวดี

รถกระบะรับจ้างเขตอำเภอเวียงสระ 

หากท่านไม่มีพนักงานยกสินค้าก็ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเราจะมีพนักงานยกสินค้าติดไปกับรถ หากว่าท่านต้องการที่จะใช้บริการเด็กยกสินค้าก็สามารถเรียกใช้บริการได้ทันที และพนักงานยกของของเราทุกคนมีความชำนาญในงานบริการยกของ ลงของ รถรับจ้างขนของ เป็นอย่างมากเพราะผ่านประสบการณ์มายาวนานเช่นเดียวกันกับผู้ให้บริการรถ ดังนั้นไม่ว่าจะยกสินค้าไปใกล้หรือไกลขนาดไหนเราก็ไม่เคยกังวลเรื่องสินค้าเสียหายเลย

เราต้องขอขอบคุณ ผู้อุปการะคุณทุกท่านที่เข้ามาใช้บริการ รถกระบะรับจ้างขนของ สุราษฎร์ธานี ของเราตลอดเลยเวลากว่า 15 ปีเราดีใจและมีความสุขใจทุกครั้งที่ท่านให้โอกาสกับเราได้เข้ามารับใช้ท่าน เราหวังว่าในโอกาสแบบนี้ต่อๆไปและเราสัญญาว่าจะให้บริการ รถรับจ้างขนของ ที่ดีที่สุดและราคาถูกที่สุดตลอดไป ขอบคุณค่ะ


15
บริหารจัดการอาคาร: เคล็ดไม่ลับการวางตำแหน่งติดแอร์ที่ดี

แอร์หรือเครื่องปรับอากาศ ถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่ง มีหน่วยเป็น BTU สามารถปรับอุณภูมิของอากาศในสถานที่ ทำให้ที่อาศัยไม่ร้อน เย็น จนเกินไป หรือ จะรักษาสภาวะอากาศให้คงที่ และ ยิ่งบ้านเรามีอากาศที่ร้อนอบอ้าว ก็มักจะนำเครื่องปรับอากาศมาใช้เพื่อลดอุณภูมิให้เย็นลง เครื่องปรับอากาศมีทั้งแบบติดผนัง และแบบเคลื่อนที่ จะทำงานในรูปแบบการถ่ายเทความร้อน รวมไปถึงยังสามารถฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ได้ด้วย จะให้ความเย็น หรือ ระบบการใช้งานที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้สะดวกที่จะใช้แบบไหน เครื่องปรับอากาศในปัจจุบันนั้นได้วางขายอยู่มากมายหลากหลาย จนบางครั้งอาจจะเลือกไม่ถูก และ ไม่รู้ว่าซื้อแล้วจะดีไหม แต่สิ่งที่สำคัญมากอีกปัจจัยหนึ่งคือ การติดตั้งแอร์ในตำแหน่งที่เหมาะสม

เพื่อให้ความเย็นได้กระะจายไปทั่วห้องและยังไม่ทำให้แอร์ต้องทำงานหนักอีกด้วย นอกจากนี้ การติดตั้งคอมเพรสเซอร์ ควรจะหาพื้นที่ติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ ให้อยู่ในบริเวณที่เหมาะสมด้วย  ซึ่งควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่เป็นพื้นปูน หรือ ดาดฟ้า รวมถึงพื้นที่อื่น ๆ ที่ได้รับแสงแดดโดยตรง รวมทั้งมุมอับ ที่อากาศไม่ค่อยถ่ายเท เพราะคอมเพรสเซอร์แอร์นั้น เป็นตัวระบายความร้อน จึงควรอยู่ในที่ร่ม แนะนำว่าควรอย่างยิ่งที่จะยกสูงขึ้น เหนือพื้นที่ปกติ เพื่อให้อากาศจากคอมเพรสเซอร์ ถ่ายเทได้ดียิ่งขึ้น เมื่อคอมเพรสเซอร์ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และไม่เปลืองไฟด้วย แต่ในวันนี้ ทางเราจะมาพูดถึงการวางตำแหน่งแอร์ในบ้านให้เหมาะสม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยทำให้แอร์กระจายความเย็นไปทั่วห้อง เพื่อให้คนในบ้านรู้สึกเย็นสบายและช่วยประหยัดค่าไฟอีกด้วย

หลายบ้านประสบปัญหาในเรื่องของแอร์ไม่เย็น ซึ่งมีด้วยกันหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความสกปรกของแอร์ อุณหภูมิที่ใช้ หรือ ตำแหน่งการติดตั้งแอร์ ซึ่งทั้งหมดนี้มีความสำคัญอย่างมากในเรื่องของการใช้งาน แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงการวางตำแหน่งของแอร์ให้เหมาะสม ซึ่งหลายคนคิดแค่ว่า วางตรงไหนที่ทำให้แอร์ตกมาที่ตัวเองมากที่สุด เพื่อให้ช่วยเย็นสบาย ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะการวางตำแหน่งแอร์จะมีเคล็ดลับที่ช่วยทำให้ความเย็นกระจายไปทั่วห้อง และไม่ทำให้แอร์ทำงานหนักด้วย สำหรับเคล็ดลับแรกคือ ไม่ควรติดตั้งแอร์บนศีรษะและปลายเตียง

ข้อนี้สิ่งสำคัญมาก เพราะเป็นตำแหน่งที่ปล่อยลมออกมาปะทะร่างกายและศีรษะโดยตรง อาจเป็นต้นเหตุให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ สำหรับทิศทางลมจากเครื่องปรับอากาศที่สวนจากปลายเท้าขึ้นมาทางศีรษะ ลมเย็นจะพัดสวนเข้าจมูกตลอด หากเครื่องปรับอากาศไม่ได้ทำความสะอาดนานๆ อากาศที่เป่าออกจากแอร์จะมีความชื้นและเชื้อโรคตามมาด้วย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ระบบหายใจทำงานผิดปกติ มีโอกาสเป็นหวัดเรื้อรัง เกิดโรคภูมิแพ้ได้ง่าย อีกทั้งการติดตั้งแอร์ไว้บนหัวเตียง จะทำให้ตอนนอนรู้สึกเหมือนมีอะไรกดทับอยู่ ส่งผลให้รู้สึกไม่ปลอดภัย นอกจากนี้ ตำแหน่งเหนือประตูห้อง คือจุดที่ไม่ควรติดตั้งแอร์ เพราะการเปิด-ปิด ประตูแต่ละครั้งจะทำให้ความเย็นออกจากห้องนอนได้ง่าย อุณหภูมิใกล้ประตูไม่คงที่ ส่งผลให้เครื่องปรับอากาศเย็นช้า ระบบเซ็นเซอร์ของเครื่องปรับอากาศทำงานหนักและเปลืองค่าไฟอีกด้วย นอกจากนี้ เครื่องทำความเย็นทุกๆ ประเภท ไม่ควรติดตั้งในจุดที่โดนแสงแดดหรือมีเครื่องทำความร้อน

โดยเฉพาะผนังบ้านทางทิศใต้และทิศตะวันตก ซึ่งเป็นทิศที่รับแสงแดดเกือบตลอดทั้งวัน ไม่เพียงแค่ทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น จะทำให้ค่าไฟก็ขยับตามขึ้นด้วย หากบางห้องไม่สามารถเลี่ยงในการติดตั้งในทิศดังกล่าวได้ อาจเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศชนิดฝังฝ้าเพดานแทนได้ และทริคอีกอย่างหนึ่งคือ เราควรเลือกตำแหน่งที่กระจายลมได้ไกล โดยห้องแต่ละห้องจะมีรูปร่างและขนาดต่างกัน

วิธีการมองหาจุดติดตั้งแอร์มีหลักการใกล้เคียงกันคือ ติดตั้งมุมที่เครื่องปรับอากาศสามารถกระจายลมเย็นไปทั่วทั้งห้องได้ ไม่ติดตั้งในมุมอับ เพราะการกระจายความเย็นอาจทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร เช่น ห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตำแหน่งติดตั้งควรอยู่ในตำแหน่งผนังแนวยาว เพื่อให้ความเย็นที่ออกมากระจายไปทางซ้ายและขวาของห้องได้อย่างทั่วถึง และสำหรับตำแหน่งที่เหมาะสมมากที่สุดคือ ผนังด้านที่ตั้งฉากกับเตียง ให้ทิศทางลมจากตัวเครื่องพัดขวางลำตัวในเวลานอน อาจติดตั้งเครื่องปรับอากาศให้ตรงบริเวณกลางเตียงหรือขยับเยื้องค่อนไปทางปลายเตียงเล็กน้อย จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคภูมิแพ้หรือระบบทางเดินหายใจได้ แถมยังช่วยทำให้เย็น หลับสบายมากที่สุด

ทั้งนี้ทางเราอยากให้ทุกคนได้เลือกเครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพในการใช้งานที่เหมาะสม ทางเรามีบริการทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ ระบบการจัดการอาคารหรือระบบทำความเย็นภายในอาคาร เพื่อที่จะได้สามารถใช้งานเครื่องปรับอากาศในสถานที่ที่มีคนจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเราถือว่า ระบบปรับอากาศและหมุนเวียนอากาศเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะผู้คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักจะใช้ชีวิตในภายในอาคาร นั่นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าเราได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์และสะอาดเข้าไป ก็จะทำให้เรามีสุขภาพที่ดี สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้สดชื่น สบายมากขึ้นได้

หน้า: [1] 2 3 ... 45