บริการทำความสะอาด: วิธีประหยัดน้ำ บ้านสะอาดได้แม้ไม่ต้องเปลืองน้ำ !

[siritidaphon]

บริการทำความสะอาด: วิธีประหยัดน้ำ บ้านสะอาดได้แม้ไม่ต้องเปลืองน้ำ !

น้ำ เป็นทรัพยากรที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ แต่ปัจจุบันปัญหาขาดแคลนน้ำเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น การหาวิธีประหยัดน้ำจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรตระหนักและร่วมมือกัน โดยเฉพาะในกิจวัตรประจำวันที่เราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กน้อยเพื่อช่วยลดการใช้น้ำได้ เช่น การทำความสะอาดห้องน้ำ ที่ปกติแล้วหลายคนมักใช้น้ำเยอะเป็นพิเศษ

ดังนั้น วันนี้เราจึงจะมาบอก 5 วิธีการใช้น้ำอย่างประหยัดระหว่างขั้นตอนการทำความสะอาด พร้อมชี้เป้าน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำ สูตรอ่อนโยน ช่วยให้คุณประหยัดทั้งแรงขัด และประหยัดทั้งน้ำ หากพร้อมแล้วก็ตามไปดูกันเลย !

 
5 วิธีประหยัดน้ำแบบง่าย ๆ เริ่มได้ที่ตัวเรา

1. ก่อนทำความสะอาด อย่าลืมตรวจรอยรั่วซึมของก๊อกน้ำก่อน

ก่อนจะเริ่มทำความสะอาดห้องน้ำ สิ่งสำคัญคือ การตรวจสอบก๊อกน้ำทุกจุดในห้องน้ำให้แน่ใจว่าไม่มีการรั่วซึม เนื่องจากการรั่วซึมของก๊อกน้ำถือเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เสียน้ำโดยเปล่าประโยชน์ แม้จะเป็นรอยรั่วเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้สูญเสียน้ำได้มากถึง 100-200 ลิตรต่อเดือน ดังนั้น วิธีการใช้น้ำอย่างประหยัดข้อแรกจึงเป็นการหมั่นตรวจสอบก๊อกน้ำอย่างสม่ำเสมอ

วิธีการตรวจสอบรอยรั่ว

    เปิดน้ำให้ไหลออกมาสักพักก่อน แล้วปิดก๊อกเพื่อสังเกตดูว่ามีน้ำยังหยดรั่วออกมาหรือไม่
    ใช้วิธีพันผ้าขาวรอบตัวก๊อก ปล่อยทิ้งไว้สักพัก แล้วตรวจสอบว่าผ้ามีรอยชื้นหรือไม่
    หากพบรอยรั่ว ให้รีบดำเนินการซ่อมแซมทันที หรือเปลี่ยนก๊อกใหม่หากจำเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้สูญเสียน้ำโดยเปล่าประโยชน์


2. รองน้ำใส่ถังไว้ก่อนเช็ดสุขภัณฑ์ ลดการใช้สายยางฉีดซึ่งทำให้เปลืองน้ำ

การใช้สายยางฉีดน้ำโดยตรงในการเช็ดทำความสะอาดสุขภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น โถส้วม อ่างล้างหน้า กระจก ฯลฯ ทำให้เกิดการสิ้นเปลืองน้ำ โดยวิธีประหยัดน้ำที่ช่วยได้มาก คือ การรองน้ำใส่ถังหรือบัวรองรับไว้ก่อน แล้วจึงนำผ้ามาชุบน้ำจากถังเพื่อเช็ดทำความสะอาดสุขภัณฑ์แทน โดยไม่จำเป็นต้องเปิดน้ำให้ไหลออกมาตลอดเวลา วิธีนี้จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมปริมาณการใช้น้ำได้ดีกว่า และลดการสูญเสียน้ำโดยเปล่าประโยชน์
เทคนิคในการทำความสะอาดสุขภัณฑ์

    เลือกใช้ถังหรือบัวที่มีขนาดพอเหมาะ ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป เพื่อให้สะดวกต่อการเคลื่อนย้ายและรองรับปริมาณน้ำ
    ควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์หรือผ้าเนื้อละเอียดสำหรับเช็ดทำความสะอาด เนื่องจากสามารถดูดซับน้ำได้ดี ทำให้สามารถประหยัดน้ำได้มากขึ้น ไม่จำเป็นต้องนำผ้าไปจุ่มน้ำบ่อย ๆ

3. ซักผ้าด้วยมือ พร้อมล้างห้องน้ำไปในตัว ช่วยประหยัดเพิ่มขึ้นได้มาก

การซักผ้าด้วยเครื่องมักจะใช้น้ำปริมาณมาก โดยเฉลี่ยแล้ว เครื่องซักผ้าขนาดธรรมดาจะใช้น้ำประมาณ 70-100 ลิตรต่อรอบการซัก ดังนั้น วิธีประหยัดน้ำที่ดีกว่าคือการซักผ้าด้วยมือพร้อมไปกับการล้างห้องน้ำ ซึ่งจะลดการใช้น้ำเหลือเพียงประมาณ 10-20 ลิตรต่อการซักเท่านั้น และสิ่งที่ดีไปกว่านั้นคือ คุณยังสามารถนำน้ำที่ใช้ซักผ้ามาล้างทำความสะอาดห้องน้ำไปด้วยในตัว โดยไม่จำเป็นต้องใช้น้ำสะอาดอีกรอบหนึ่ง ซึ่งช่วยประหยัดน้ำเพิ่มขึ้นอีกมากทีเดียว

 

4. ไม่เปิดน้ำทิ้งขณะล้างห้องน้ำ

วิธีการใช้น้ำอย่างประหยัดขึ้นคือ ห้ามเปิดน้ำทิ้งระหว่างการทำความสะอาดโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดการสิ้นเปลืองน้ำโดยเปล่าประโยชน์ ส่วนในกรณีที่ต้องล้างทำความสะอาดโถส้วมโดยเฉพาะ ก็ให้กดชักโครกเพียงครั้งเดียวหลังจากทำความสะอาดเสร็จแล้วเท่านั้น ไม่ต้องกดซ้ำหลายครั้งซึ่งจะทำให้เปลืองน้ำขึ้นไปอีก


5. ใช้น้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนโยน ล้างคราบออกง่าย ไม่ต้องใช้น้ำเยอะ

การเลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดให้เหมาะสมนั้นมีส่วนสำคัญในการช่วยประหยัดน้ำได้มาก โดยน้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนโยนจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าน้ำยาสูตรเข้มข้น เนื่องจากออกฤทธิ์ในการกำจัดคราบสกปรกได้ง่ายกว่า จึงไม่จำเป็นต้องใช้แรงขัดถูมากนัก เพียงแค่ทิ้งให้น้ำยาทำปฏิกิริยากับคราบสกปรกสักระยะหนึ่ง คราบก็จะหลุดลอกออกมาทันที ทั้งยังใช้น้ำในการล้างน้อยลงด้วย ในขณะที่น้ำยาทำความสะอาดสูตรเข้มข้นต้องใช้น้ำในการล้างคราบและขัดถูมากกว่า บางครั้งอาจต้องล้างน้ำซ้ำหลาย ๆ รอบจึงจะสามารถขจัดคราบและฟองออกได้หมด ซึ่งจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ น้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนโยนยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์หรือสัตว์เลี้ยง และไม่ทำให้เกิดคราบสกปรกหรือคราบขุ่นตกค้างหลังจากการใช้งาน ทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของสุขภัณฑ์ให้ยาวนานขึ้นอีกด้วย